Instagram หรือ IG เป็นแอปพลิเคชันที่ได้รับความนิยมกันทั่วโลก IG มีการพัฒนาฟีเจอร์ต่าง ๆ อยู่เสมอ โดยเฉพาะฟีเจอร์ IG Story ที่เราสามารถถ่ายรูปหรือวิดีโอคลิปสั้น ๆ ในแต่ละวัน ซึ่งได้การตอบรับ และ กำลังเป็นที่นิยมมากในขณะนี้ เนื่องจากมีตัวเลือกลูกเล่นที่มากมาย เช่น Poll, Emoji, Slider, Q&A เป็นต้น ซึ่งตัวที่มาแรงที่สุด ณ เวลานี้ คือ Filter IG Story ที่จะช่วยให้การลงสตอรี่ของเรามีสีสันขึ้นมา สามารถเลือกฟิลเตอร์เพื่อนำมาแต่งรูปให้สวยขึ้นได้ โดยไม่ต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันใหม่เพิ่มขึ้นมาเพื่อแต่งรูป
โดย Filter IG Story ที่มากับตัวแอปพลิเคชันเองก็มีให้เลือกหลากหลายอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เราสามารถเพิ่ม Filter Instagram Story ตามความชอบของเราเองได้ โดยการเข้าไป save ฟิลเตอร์ที่เหล่าครีเอเตอร์ได้สร้างสรรค์ไว้ให้เราใช้ตามความชอบ
จากการที่อัลกอริทึมของ Instagram ถูกพัฒนาให้มีความเหมาะสมกับการทำตลาดออนไลน์อยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้ฟีเจอร์นี้ นอกจากจะใช้เพื่ออัพเดทชีวิตประจำวันแล้ว แบรนด์ต่าง ๆ ยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในทำการตลาดออนไลน์ได้อีกด้วย
โดยวิธีค้นหาและบันทึก Filter IG Story ทำได้ ดังนี้
1.พิมพ์ชื่อไอจีเจ้าของฟิลเตอร์ที่ต้องการในช่องค้นหา

2. กดที่รูปหน้ายิ้มตรงแถบเหนือรูปภาพ

3. เลือกฟิลเตอร์ที่ต้องการเพื่อทดลองใช้จริง โดยกด Try It

4. เมื่อลองใช้แล้ว หากชอบ Effect นั้น ๆ ให้กด Save Effect เพียงเท่านี้ เราก็จะได้ Filter Instagram Story สวย ๆ มาใช้กันแล้ว

โดยในปัจจุบัน ธุรกิจ แบรนด์สินค้าต่าง ๆ เหล่า Influencer รวมไปถึงผู้ใช้งานทั่วไป ต่างก็สร้างสรรค์คอนเทนต์บน Instagram กันหลากหลายรูปแบบ เพื่อให้เกิดความน่าสนใจ ทำให้การที่เราจะสื่อสารด้วยรูปภาพหรือวิดีโอธรรมดา อาจจะไม่สามารถดึงดูดใจผู้คนได้มากมายเหมือนที่ผ่านมา ดังนั้น การเพิ่มลูกเล่น อย่างเช่น การแต่งรูปโดยใช้ฟิลเตอร์ที่สวยงาม โดดเด่น สะดุดตา อาจจะเป็นตัวช่วยเราได้
ซึ่ง Filter Instagram Story สามารถทำได้หลากหลายแนว ไม่ว่าจะเป็นแนวน่ารัก สามารถทำเปนรูปสัตว์ รูปของกินชวนหิว แนวตลก แนวอาร์ตสไตล์กล้องฟิล์ม แนววินเทจ แนวข้อความโดนใจ อาจจะทำเป็นแบบสุ่มข้อความก็ได้ แนวหลอนชวนขนลุก ฯลฯ ในส่วนของแบรนด์สินค้า ก็สามารถสร้างสรรค์ฟิลเตอร์ได้หลากหลายรูปแบบ โดยอาจจะทำเป็นรูปสินค้า ชื่อแบรนด์ โลโก้แบรนด์ สัญลักษณ์ หรือ ข้อความที่สื่อถึงแบรนด์หรือแคมเปญนั้น ๆ หรือ อาจจะแหวกแนวเล่นกับกระแสช่วงหนึ่ง ๆ เพื่อเรียกยอด Engagement จากผู้ใช้ ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน
การสร้างฟิลเตอร์สามารถเชื่อมต่อผู้ใช้ได้อย่างมากมาย ยิ่งสร้างสรรค์ฟิลเตอร์ได้น่าสนใจมากเท่าไหร่ โอกาสที่ผู้ใช้ หรือ กลุ่มเป้าหมายของสินค้าเรา จะกดค้นหาเพื่อเข้ามาดู และ ลองใช้ฟิลเตอร์ รวมถึงกดติดตาม Account IG ของเรา ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
ซึ่งธุรกิจจะได้คนที่มาร่วมใช้ฟิลเตอร์ และ เกิด Content จาก User Generated Content มากมายขึ้นมา ทำให้แบรนด์ของคุณจะเข้าไปอยู่ในสายตา และ คนที่สนใจจะทำการบอกต่อ
Filter Instagram Story ถือได้ว่าเป็นเครื่องมือที่ดีในการสร้างปฏิสัมพันธ์ การรับรู้ถึงแบรนด์ การสร้าง Brand awareness หรือ การรับรู้แบรนด์ เป็นสิ่งจำเป็นที่แบรนด์จะต้องให้ความสำคัญมากที่สุดอย่างหนึ่งในการทำธุรกิจ ยิ่งการสื่อสารที่ดี จะทำให้แบรนด์ถูกพบเห็นอยู่บ่อยครั้ง และ สามารถที่จะส่งสารไปถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด เมื่อแบรนด์ของเราเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ยิ่งสร้างโอกาสทางธุรกิจให้พัฒนาเติบโตเพิ่มขึ้น จนทำให้เกิดความรู้สึกที่ดี และ เกิดพฤติกรรมการซื้อในที่สุด รวมถึงสามารถส่งผลให้เกิด Brand Royalty หรือ ความผูกพันระหว่างแบรนด์ และ ผู้บริโภคตามมา ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก
จากคำที่ว่า “Content is king” แบรนด์ควรใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการทำตลาด ต้องพยายามหาทางทำให้แบรนด์โดดเด่น โดยยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของแบรนด์ จะช่วยให้แบรนด์น่าจดจำ และ ถูกบอกต่อ
ตัวอย่าง Filter Instagram Story เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ แคมเปญ หรือ คอนเทนต์ใหม่ ๆ ของแบรนด์
1.Pizzahut ทำฟิลเตอร์เป็นรูปสินค้า นั่นคือ พิซซ่า พร้อมทั้งให้สุ่มข้อความที่เกี่ยวกับอาหาร

2. Calvin Klein ทำเป็นข้อความน่ารัก ๆ

3.H&M ให้ลองเล่นรูปสินค้าต่าง ๆ

4. YSL เป็นฟิลเตอร์แต่งหน้าให้ พร้อมรูปโลโก้แบรนด์

ดังนั้น จะเห็นว่าธุรกิจสามารถใช้ช่องทาง Filter Instagram Story เพื่อเพิ่มการรับรู้ เข้าถึงแคมเปญใหม่ ๆ หรือ คอนเทนต์ดี ๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายของแบรนด์ได้
สามารถเริ่มต้นการใช้กลยุทธ์นี้กับแบรนด์ ด้วยการปรึกษากับเรา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดกับแบรนด์ คลิกที่นี่
อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำการตลาดบน IG ได้ ที่นี่
หากคุณยังไม่มี Account IG สมัครเลย