อย่างที่ทราบกันดีว่า Google คือ Search Engine อันดับหนึ่งที่ผู้คนนิยมใช้งานกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก แน่นอนว่าในฐานะของผู้ที่ทำธุรกิจออนไลน์ต่างก็ต้องการให้หน้าเว็บไซต์ของตัวเองติดหนึ่งในสิบอันดับบนหน้าแรกของ Google ด้วยกันทั้งนั้น เพราะการที่ลูกค้าสามารถพบเห็นหน้าเว็บไซต์ของเราได้เป็นอันดับแรก ๆ นอกจากจะช่วยเพิ่มอัตราการคลิกเข้าชมเว็บไซต์แล้ว ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายและช่วยให้เว็บไซต์ของเราเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ซึ่งการทำโฆษณาบนแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง Google นั้นย่อมมีการแข่งขันและค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงกว่าช่องทางอื่นเป็นธรรมดา วันนี้ Go Online จึงจะมานำเสนอเทคนิคดี ๆ ที่จะช่วยให้บริษัทของคุณจ้างเอเจนซี่ลง โฆษณาบน Google ให้ติดอันดับไวและคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปมากที่สุด
1.ธุรกิจของคุณต้องมีเว็บไซต์
สิ่งแรกที่จะขาดไปไม่ได้เลยสำหรับธุรกิจออนไลน์ที่ต้องการจะลง โฆษณาบน Google นั่นก็คือหน้าเว็บไซต์ธุรกิจของเรา เพราะเว็บไซต์นั้นเป็นแหล่งรวมข้อมูลในรูปแบบออนไลน์ที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ตลอดเวลา ทั้งยังเป็นการช่วยสร้างตัวตนและความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของเราอีกด้วย เมื่อเอเจนซี่นำหน้าเว็บไซต์ของเราไปเราลงโฆษณาบน Google หน้าเว็บไซต์ของเราจะปรากฏอยู่ด้านบนสุดของหน้าแสดงผลการค้นหาของ Google ทันที ซึ่งการขึ้นมาอยู่บนหน้าแรกนี้ช่วยให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ของเราได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
2. โครงสร้างเว็บไซต์ต้องเหมาะสมกับการใช้งาน
การออกแบบเว็บไซต์ควรเน้นให้เรียบง่าย ใช้งานสะดวก และมีความเร็วเว็บไซต์ที่เหมาะสม เนื่องจากจุดประสงค์หลักของการลงโฆษณาบน Google คือการเพิ่มยอดคลิกเข้าชมเว็บไซต์ เจ้าของธุรกิจจึงต้องมั่นใจว่าเว็บไซต์ของตัวเองมีเนื้อหาของสิ่งที่เราต้องการจะนำเสนอจริง ๆ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะสนใจไล่อ่านทุกตัวอักษรบนหน้าเว็บไซต์ของเรา นอกจากนี้ยังควรปรับเว็บไซต์ให้สามารถใช้งานได้ทั้งบนจอปกติ จอแท็บเล็ต และจอโทรศัพท์มือถือ เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลายและเหมาะสมกับการแสดงผลบนทุกอุปกรณ์
3. เลือกใช้ Keyword อย่างชาญฉลาด
การจะทำโฆษณาบน Google ให้ประสบความสำเร็จนั้น เว็บไซต์ของเราจำเป็นที่จะต้องมี Keyword ที่ชัดเจนตรงตามความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการบนหน้าเว็บของเรา โดยการเลือกหา Keyword มาใช้นั้นควรมองตามหลักความเป็นจริงว่าถ้าตัวเราเป็นลูกค้าแล้วต้องการค้นหาข้อมูลสินค้าหรือบริการอะไรสักอย่าง เราจะค้นหาสิ่ง ๆ นั้นด้วยคำว่าอะไรบ้าง และการใส่ Keyword ลงบนหน้าเว็บไซต์นั้นควรใส่ในปริมาณที่ไม่ดูเยอะจนเกินไปเพื่อป้องกันไม่ให้ Google คิดว่าเนื้อหาในเว็บไซต์ของเราเป็นสแปม นอกจากนี้เรายังสามารถปรับ Keyword ให้เป็นตัวหนา หรือใช้การติด Tag เพื่อให้ Search Engine รู้ว่านี่คือคำที่เราต้องการเน้นแทนก็ได้เช่นกัน
4. ปรับ Landing page ให้ตรงกับคำโฆษณา
สำหรับการทำโฆษณาบน Google นั้น กลุ่มลูกค้าเป้าหมายล้วนแล้วแต่มีความคาดหวังจากการกดคลิกเข้าชมเว็บไซต์โฆษณาที่แตกต่างกันออกไป การปรับหน้า Landing Page ให้เกี่ยวข้องกับแคมเปญโฆษณาและ Keyword หลักจะช่วยเพิ่มโอกาสในการตัดสินใจซื้อสินค้าของกลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากธุรกิจของคุณทำโฆษณาบน Google โดยใช้ keyword หลักเป็นคำว่าคอร์สเรียนออนไลน์ หน้า Landing Page ของคุณก็ควรจะนำเสนอเกี่ยวกับรายละเอียดคอร์สเรียนออนไลน์ทั้งหมดที่คุณมีเพื่อให้ลูกค้ามีข้อมูลที่จะใช้ในการตัดสินใจและช่วยให้คุณสามารถปิดการขายได้ง่ายขึ้น
5. ให้ความสำคัญกับคะแนนคุณภาพ
อีกสิ่งหนึ่งที่ผู้ทำโฆษณาบน Google จะมองข้ามไปไม่ได้เลยนั่นคือคะแนนคุณภาพที่ Google ใช้ประเมินคุณภาพและความสอดคล้องกันระหว่าง Keyword และ แคมเปญโฆษณาของเรา โดยคะแนนคุณภาพนั้นจะอยู่ที่ 1-10 คะแนน ถ้าคะแนนน้อย (1-3) จะหมายถึง Keyword ที่เราเลือกใช้นั้นยังด้อยคุณภาพซึ่งอาจจะส่งผลต่อการแสดงผลโฆษณาของเรา ในทางกลับกันถ้าคะแนนคุณภาพสูงๆ (8-10) จะหมายถึง Keyword ที่เราเลือกใช้มีคุณภาพสูงทั้งยังเหมาะสมกับเว็บไซต์ของเรา โดยตัวคะแนนคุณภาพนี้จะส่งผลโดยตรงกับโฆษณาบน Google ยิ่งเรามีคะแนนคุณภาพสูงก็จะยิ่งทำให้อันโฆษณาของเราสูงขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้ราคาที่ต้องจ่ายต่อคลิก (CPC) ถูกลง และยังช่วยเพิ่มความถี่ในการแสดงผลโฆษณาของเราอีกด้วย
ก็จบกันไปแล้วนะคะสำหรับเทคนิคดี ๆ ที่จะช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์ธุรกิจนำไปปรับใช้เพื่อให้การจ้างเอเจนซี่มาทำโฆษณาบน Google เป็นเรื่องง่าย เห็นผลไว และคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปมากยิ่งขึ้น หรือถ้าหากลูกค้าท่านไหนต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติมในการทำโฆษณาผ่านทาง Search Engine ยอดนิยมอย่าง Google ก็สามารถทักเข้ามาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับทาง Go Online ได้เลยค่ะ
ติดต่อ LINE: @goonline หรือคลิก >> http://nav.cx/bHCoNtB
Tel: 02-115-5755 ต่อ 101 หรือ 088-994-9924
Email: hello@goonlinethailand.com
หรือกรอกฟอร์มเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ