Content is King เป็นหนึ่งในคำคมที่นักทำคอนเทนต์อย่างเรา ๆ คงได้ยินกันบ่อยจนคุ้นชิน เพราะในยุคที่การสื่อสารในโลกออนไลน์เกิดขึ้นได้ง่ายและรวดเร็วจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ในแต่ละวันจะมีคอนเทนต์ในหัวข้อต่าง ๆ ถูกผลิตออกมามากมายมหาศาลให้เราได้เลือกเสพจนทำให้เกิดสถานการณ์ที่เรียกว่า Content Tsunami หรือ การที่มีคอนเทนต์ถูกผลิตออกมาเพื่อสร้างหรือตามกระแสกันอย่างไม่หยุดหย่อนจนทำให้ผู้อ่านเริ่มรู้สึกว่ามันมากจนเกินไป และด้วยความมากจนเกินไปนี้ก็ส่งผลให้ผู้อ่านเริ่มปัดตกคอนเทนต์ที่ตัวเองไม่สนใจ และหันมาคัดสรรประเภทของคอนเทนต์ที่จะเสพให้กับความต้องการของตัวเองมากขึ้น
และเพราะการทำคอนเทนต์ถือได้ว่าเป็นหัวใจหลักของการทำการตลาดในขณะนี้ สถานการณ์คอนเทนต์ล้นตลาดดังกล่าวจึงได้กลายมาเป็นโจทย์สำคัญสำหรับนักทำคอนเทนต์ทุกคนที่จะต้องสร้างคอนเทนต์ให้แปลกใหม่และดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมายเพื่อช่วยกระตุ้นให้จดจำสิ่งที่เราจะต้องการนำเสนอให้ได้ ซึ่งการวางแผนที่ดีย่อมเป็นรากฐานของความสำเร็จ การวางคอนเทนต์แพลนล่วงหน้าจึงเป็นสิ่งที่นักทำคอนเทนต์ทุกคนควรทำก่อนที่จะลงมือเขียนคอนเทนต์ทุกครั้ง เพราะนอกจากจะช่วยให้การทำคอนเทนต์เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังช่วยสร้างกลุ่มผู้ติดตามที่ให้ความสนใจกับสินค้าและบริการของเราอย่างแท้จริงซึ่งสามารถนำไปสู่การปิดการขายได้ในอนาคต
วันนี้เราจึงจะมาแชร์ 5 ขั้นตอนการวาง Content Plan แบบง่าย ๆ ที่จะมาช่วยให้นักทำคอนเทนต์ทุกคนสามารถสร้างคอนเทนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าในการทำคอนเทนต์ร้อยครั้งเราจะไม่อาจเอาชนะได้ทั้งร้อยครั้ง แต่ถ้าอ่านบทความนี้จบแล้วรับรองได้เลยว่าในการทำคอนเทนต์ร้อยครั้งเราจะไม่มีทางแพ้ทั้งร้อยครั้งแน่นอน !
1.ทำความเข้าใจกับเป้าหมาย
การทำคอนเทนต์ให้ประสบความสำเร็จจำเป็นต้องอาศัยการวางคอนเทนต์แพลนที่ชัดเจน โดยควรเริ่มจากการตั้งคำถามกับตัวเองก่อนว่าเราอยากจะทำคอนเทนต์นี้ไปเพื่ออะไรและทำไปเพื่อใคร ยกตัวอย่างเช่น เพื่อเพิ่ม Conversion หรือ การกระทำบางอย่างที่เราต้องการให้ลูกค้าทำกับธุรกิจของเรา เช่น การลงทะเบียนสมัครสมาชิกสำหรับกลุ่มลูกค้าใหม่ หรือ การกดสั่งซื้อสำหรับกลุ่มลูกค้าเก่า หรืออาจจะเป็นการพัฒนา SEO (Search Engine Optimization) เพื่อให้คอนเทนต์บนเว็บไซต์ของเราติดหน้าแรกในผลลัพธ์การค้นหา เป็นต้น หลังจากนั้นเราค่อยเริ่มตั้งคำถามลงลึกไปในส่วนของรายละเอียดเพิ่มเติมว่ากลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการจะนำเสนอคอนเทนต์ให้นั้นมีพฤติกรรมความชอบอย่างไร และเขาต้องการการสื่อสารในรูปแบบไหนเพื่อให้เกิดความเข้าใจมากที่สุด นอกจากนี้เรายังจำเป็นที่จะต้องรู้ถึงจุดอ่อนและจุดแข็งของตัวเองเพื่อช่วยให้เราสามารถวางคอนเทนต์แพลนได้อย่างเหมาะสมและบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้
2.ให้ความสำคัญกับ AARRR Funnel
AARRR Funnel เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญที่จะใช้วัดผลการตลาดแบบ Growth Hacking โดยจะเปรียบเทียบการเดินทางของลูกค้าออกเป็น 5 ขั้นตอนเหมือนกับลักษณะของกรวยที่ยิ่งลึกลงมามากเท่าไหร่ขนาดของกรวยก็จะยิ่งแคบลงมากเท่านั้น เช่นเดียวกันกับการทำธุรกิจที่เมื่อเริ่มต้นย่อมมีผู้คนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก แล้วก็จะค่อย ๆ ลดลงในแต่ละขั้นตอนจนเหลือแค่เพียงไม่กี่คนในขั้นตอนสุดท้าย โดยกระบวนการการเดินทางของลูกค้าบน AARRR Funnel สามารถแบ่งได้ ดังนี้
- Acquisition : ขั้นตอนที่ลูกค้าค้นพบธุรกิจของเรา
- Activation : ขั้นตอนที่ลูกค้าได้รับประสบการณ์จากผลิตภัณฑ์ของเรา
- Retention : ขั้นตอนการทำให้ลูกค้ารู้สึกพึงพอใจต่อประสบการณ์ที่ได้รับจากผลิตภัณฑ์ของเรา
- Revenue : ขั้นตอนการทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ของเรา
- Referral : ขั้นตอนการทำให้ลูกค้าบอกต่อผลิตภัณฑ์ของเรา
นักทำคอนเทนต์จึงจำเป็นที่จะต้องวางคอนเทนต์แพลนให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในแต่ละส่วนของ AARRR Funnel เพื่อเป็นป้องกันและรักษาฐานลูกค้าให้คงอยู่กับธุรกิจของเราไปจนถึงขั้นตอนสุดท้าย ยกตัวอย่างเช่น การทำคอนเทนต์ในขั้นตอน Acquisition หรือ ขั้นตอนที่ลูกค้าค้นพบธุรกิจของเรา การวางคอนเทนต์แพลนก็ควรจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับวิธีการดึงดูดความสนใจจากลูกค้าและการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก เป็นต้น
3.ศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
คอนเทนต์บนโลกออนไลน์ในขณะนี้มีอยู่มากมายมหาศาล และก็มีคอนเทนต์จำนวนไม่น้อยที่เป็นคอนเทนต์ทั่ว ๆ ไป ไม่ได้มีแรงดึงดูดหรือแรงโน้มน้าวให้ผู้อ่านสนใจสิ่งที่เรากำลังจะนำเสนอ การเป็นนักทำคอนเทนต์ที่ดีจึงไม่ใช่แค่การรู้จักเขียน แต่ยังต้องรวมไปถึงการคิด และการค้นคว้าข้อมูล ซึ่งก่อนจะเริ่มเขียนคอนเทนต์แต่ละเรื่อง นักทำคอนเทนต์ควรค้นคว้าหาข้อมูลก่อนทุกครั้ง ไม่ใช่นึกจะเขียนอะไรก็นั่งเทียนเขียนเนื้อหาขึ้นมาเอง และถึงแม้ว่าเนื้อหาที่เขียนจะเป็นเรื่องที่คุ้นเคยอยู่แล้วก็ต้องหมั่นศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมอยู่อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งการวางคอนเทนต์แพลนก่อนการเขียนทุกครั้งก็จะช่วยให้เรารู้ว่าเราควรทำและไม่ควรทำอะไร นอกจากนี้ยังควรศึกษาคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เรากำลังจะลงมือเขียนเพื่อช่วยให้เรารู้ว่าตอนนี้ผู้อ่านกำลังสนใจคอนเทนต์รูปแบบไหน และอะไรที่กำลังเป็นกระแสในตอนนี้ เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาปรับใช้เพื่อสร้างคอนเทนต์ในรูปแบบของตัวให้ตรงตามความสนใจและความต้องการของกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด
4.เลือกช่องทางที่จะใช้โปรโมท
การทำคอนเทนต์ให้ประสบความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับเนื้อหาของคอนเทนต์แค่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการเลือกใช้สื่อในการสื่อสารคอนเทนต์ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก่อนจะเริ่มต้นวาง Content Plan เราจึงควรศึกษาและทำความเข้าใจกับรูปแบบและความแตกต่างของสื่อที่จะใช้ในการโปรโมทคอนเทนต์ของเราเสียก่อน โดยรูปแบบของสื่อสามารถแบ่งได้เป็น 3 รูปแบบ ดังนี้
- Paid Media : สื่ออะไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นสื่อออนไลน์ หรือออฟไลน์ ที่เราต้องจ่ายเงินซื้อพื้นที่โฆษณาเพื่อการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เช่น การซื้อโฆษณาบน Facebook หรือ Google ซึ่งจะมีข้อดีตรงที่เราสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการให้เห็นได้อย่างหลากหลาย แต่ก็แลกมากับค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าการโปรโมทรูปแบบอื่น
- Owned Media : สื่อที่เราเป็นเจ้าของหรือสร้างขึ้นมาเพื่อติดต่อสื่อสารกับลูกค้า เช่น Facebook Page, Instagram Account, Website, Magazines/ Brochures หรือแม้แต่ร้านค้าในแอปพลิเคชันขายของออนไลน์ เช่น Shopee, Lazada เป็นต้น
- Earned Media : สื่อที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมและความพึงพอใจของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการกดไลท์, กดแชร์, คอมเมนต์, Tag รูปภาพหรือคอมเมนต์หาเพื่อน, การเขียนรีวิว รวมไปถึงการบอกเล่าแบบปากต่อปาก ซึ่งถือได้ว่าเป็นสื่อทางการตลาดที่ดีที่สุด
5.เริ่มสร้างคอนเทนต์ !
หลังจากวางคอนเทนต์แพลนจนเสร็จเรียบร้อยแล้วก็มาถึงขั้นตอนสุดท้ายซึ่งก็คือการลงมือเขียนคอนเทนต์ ซึ่งการทำคอนเทนต์ในสมัยก่อนมักจะใช้การเกาะกระแสเป็นหลักเพื่อดึงดูดความสนใจจากคนหมู่มากให้เข้ามาอ่าน แต่จากสถานการณ์คอนเทนต์ล้นตลาดในปัจจุบันทำให้นักทำคอนเทนต์ต้องหันไปโฟกัสที่จุดอ่อนและจุดแข็งของตัวเพื่อสร้างคอนเทนต์ที่แตกต่าง ทั้งการลงคอนเทนต์ในปริมาณมาก ๆ เพื่อให้ผู้บริโภครู้ว่าธุรกิจของเรามีความเคลื่อนไหวนั้นไม่ใช่คำตอบของความสำเร็จอีกต่อไป ส่งผลให้นักทำคอนเทนต์ต้องวางคอนเทนต์แพลนกันอย่างจริงจัง เพื่อให้มั่นใจว่าคอนเทนต์ที่กำลังจะเขียนและนำมาเผยแพร่นั้นมีคุณภาพ และสามารถตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจได้ โดยสิ่งที่สำคัญในการเขียนคอนเทนต์คือความเกี่ยวข้องกันของเนื้อหาทั้งหมดที่เราได้ศึกษาและวางแผนมา เราจึงไม่ควรที่จะรีบเร่งในการเขียนแต่ควรใช้เวลากับมันเพื่อผลลัพท์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด นอกจากนี้ยังควรวัดผลความสำเร็จของคอนเทนต์ผ่านเครื่องมือชี้วัดคุณภาพ อย่างเช่น Google Analytics เพื่อให้เรารู้ว่าคอนเทนต์แพลนที่เราได้วางเอาไว้ให้ผลลัพท์แบบไหน และเราควรพัฒนาปรับปรุงการวางคอนเทนต์แพลนของเราอย่างไรในอนาคต
การวาง Content Plan ไม่ได้เป็นเพียงแค่การนำไอเดียที่เราคิดขึ้นได้และข้อมูลที่เราศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมมารวมเอาไว้ด้วยกัน แต่ยังรวมไปถึงการรวบรวมแนวคิดและมุมมองที่เราจะนำมาใช้เพื่อให้คอนเทนต์ของเรามีประสิทธิภาพสูงสุด และอย่าลืมว่า Content is King คือ คำกล่าวที่เข้ากับทุกยุคทุกสมัยเสมอ นักทำคอนเทนต์จึงควรวางคอนเทนต์แพลนล่วงหน้าก่อนที่จะลงมือเขียนคอนเทนต์ทุกครั้ง เพราะคอนเทนต์แพลนเป็นเครื่องมือและกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยให้คอนเทนต์ของเราประสบความสำเร็จและก้าวนำหน้าคู่แข่งในวงธุรกิจเดียวกันได้
หากคุณมีความสนใจเกี่ยวกับการทำคอนเทนต์แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร จะออกแบบคอนเทนต์อย่างไรให้ดึงดูลูกค้า รวมทั้งต้องวางคอนเทนต์แพลนอย่างไรให้ได้ประสิทธิภาพ สามารถติดต่อเข้ามาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และขอคำแนะนำกับ Go Online ให้ช่วยวางแผนการทำ Content Marketing สำหรับธุรกิจของคุณได้เลยค่ะ