ปัจจุบันนี้ Instagram เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการทำการตลาดที่มาแรงเป็นอย่างมาก Instagram นั้นเป็นเครื่องมือ social media ที่ผู้ใช้นั้น สามารถถ่ายรูปหรือวิดีโอ และอัพโหลดขึ้นไป เพื่อแสดงมุมมองตัวเอง หรือความชอบตัวเองออกไป โดยแบรนด์ต่าง ๆ ได้หันไปให้ความสนใจใน Instagram กันมากขึ้น เพราะมีฐานผู้ใช้งานเป็นวัยรุ่นและวัยทำงานจำนวนมาก มีรูปแบบการใช้งานที่ใช้ง่าย และยังสามารถตกแต่งรูปได้หลากหลาย
ธุรกิจสามารถสร้างฐานของลูกค้าและสร้างการรับรู้แบรนด์ด้วยวิธีต่าง ๆ ได้บน IG นี้ ดังนั้นหากเราต้องการใช้แอปพลิเคชันนี้ในการทำการตลาดออนไลน์ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีกลยุทธ์ดี ๆ เพื่อเป็นการสร้างข้อได้เปรียบให้กับธุรกิจของเรา
1.Profile IG ดี ช่วยดึงลูกค้าได้
การตั้งชื่อร้านใน IG ควรเป็นชื่อที่จดจำง่าย และเข้าใจได้ทันทีว่าจำหน่ายสินค้าหรือบริการอะไร อาจมีความหมายสำคัญที่น่าสนใจ แต่ต้องเกี่ยวข้องกับสินค้าที่เราขายด้วย ภาพโปรไฟล์ต้องเชื่อมโยงกับแบรนด์สินค้า ธุรกิจส่วนใหญ่นิยมใช้โลโก้แบรนด์เป็นภาพโปรไฟล์ สร้างภาพจำให้กับลูกค้า โดย Profile ที่ดี ควรระบุไปเลยว่าเราขายสินค้าอะไร เป็นพื้นที่ในการชูสินค้าเรา สามารถบอกได้ว่า สินค้าของเรามีข้อดี หรือคุณสมบัติเด่นอย่างไรบ้าง ช่องทางติดต่อแบรนด์มีช่องทางไหนบ้าง เป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ โดยเราจะต้องทำการนำเสนอ Profile ให้สั้น กระชับ ได้ใจความ และต้องโดนใจด้วยชื่อบัญชีเป็นทางการ ชัดเจน เข้าใจง่าย
2. การโพสต์ Content
การลงรูปหรือวิดีโอ ควรต้องมีความคิดสร้างสรรค์ เล่าเรื่องผ่านภาพได้ การให้ข้อมูลสินค้าและบริการของเรา จะต้องครีเอทผลงานออกมาให้ที่ดีที่สุด สวยสะกดตา สามารถดึงดูดลูกค้า เรียกยอดไลก์ (Like) และเพิ่มยอดผู้ติดตาม (Follower) ส่งผลต่อยอดขายในอนาคต ปัจจุบันการการโพสต์รูปแบบ “Carousels” กำลังเป็นที่นิยม สามารถเรียกยอดไลก์และคอมเมนต์ได้ดี การเลือกโทนสีที่ก็เป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ ต้องเลือกโทนสีการแต่งภาพให้เหมาะสมกับแบรนด์ของเรา เพื่อให้ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมหน้า profile ของเรา เกิดความรู้สึกสนใจ และอยากรู้จักแบรนด์ของเรามากขึ้น การเลือกฟิลเตอร์แต่งภาพต้องสวยงามสะดุดตาและเหมาะสม การคุมโทนสีของภาพทั้งหมดให้ไปในทิศทางเดียวกัน จะช่วยส่งเสริมให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ดูโดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากขึ้น เป็นการเพิ่มโอกาสในการเปลี่ยนจากผู้ติดตามมาเป็นลูกค้าของเราได้
3. ควรติด Hashtag #
การจะทำการตลาดบน Instagram นอกจากจะโพสต์ภาพสวย ๆ แล้ว จะต้องมีคำบรรยายใต้ภาพที่ไม่ยาวเกินไป เราต้องเป็นนักเล่าเรื่องที่ดี จากนั้นตามด้วยนำเสนอสินค้าและบริการของธุรกิจ และควรติดแฮชแท็กหน้าชื่อสินค้าที่เราขาย ช่วยให้ลูกค้าหาร้านเราเจอง่ายขึ้น เพราะลูกค้าบางคนเลือกค้นหาสินค้าจากเแฮชแท็ก โดย แฮชแท็ก สามารถดึงดูด ผู้ชมให้กดติดตามได้ด้วย แนะนำว่าไม่ควรติดแฮชแท็กเยอะจนเกินไป เพราะว่าถ้าใส่มากเกินไป จะทำให้คนคิดว่าเป็นสแปมได้ และแฮชแท็ก ที่ใช้นั้นก็จะต้องเกี่ยวข้องกับธุรกิจของเราด้วย ต้องมีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน แปลกใหม่ แต่มีข้อระวังว่าก่อนจะใช้ Hashtag นี้คุณควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าไม่ซ้ำใคร เฉพาะตัว ก็จะเป็นแม่เหล็กสำคัญที่ทำให้คนกดติดตาม IG ของแบรนด์ได้ไม่ยาก
4. สร้างคอนเทนต์ด้วย Story IG
การเล่าเรื่องใน Story IG สามารถทำได้หลายรูปแบบ เช่น ประกาศเปิดตัวสินค้าหรือบริการใหม่ โปรโมชั่นต่างๆ การรีวิวสินค้า เป็นต้น เพราะเมื่อผู้รับสารรับรู้และเกิดความชอบต่อ Story IG ของแบรนด์นั้น ๆ ก็จะตามมาด้วยการ Follow กลายเป็นหนึ่งในผู้ติดตาม ถูกเก็บในยอดสถิติเพื่อสร้างฐานข้อมูลในการสร้างกลยุทธ์ จนทำให้เกิดพฤติกรรมการซื้อได้ในที่สุด ซึ่งในตอนนี้ Instagram มีฟีเจอร์ “Swipe Up” ถือว่าเป็นส่วนสำคัญอย่างมากในการสร้าง Engagement ให้กับผู้บริโภค โดยการเลื่อนเพื่อเข้าสู่หน้าเว็บไซต์ของทางแบรนด์ได้โดยตรง เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สำคัญที่ง่ายต่อการเข้าถึงและเพิ่มยอดขายของแบรนด์ได้
แนะนำให้ใช้ IG Stories Live เช่น การถ่ายทอดสดงานเปิดตัวสินค้า เป็นต้น เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่เราสามารถสร้างการตลาดในรูปแบบ Real Time Marketing ได้ง่าย ๆ สิ่งที่ดีของการ Live คือ การทำให้เกิดความรู้สึกร่วมในเหตุการณ์ ผู้ชมจะเกิดความรู้สึกว่าได้เข้าถึงตัวตนและใกล้ชิดกับแบรนด์มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้การทำ Live ที่ดีเป็นประจำจะทำให้เกิดการติดตามช่องทางอย่างเป็นประจำด้วย
5.โปรโมทธุรกิจด้วย IG Ads
โดยเราสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมาย เพศ อายุ ความสนใจ กำหนดวันและเวลา รวมถึงงบประมาณในการทำโฆษณาได้ โดยอาจจะทำเป็น Instagram Ads Story ที่มีความเป็น Vertical Video ออกมา ทำให้ดูง่ายและสนุกขึ้น โดยสามารถสร้างความเป็น Interactive ต่าง ๆ ออกมาได้มากกว่าการลงโฆษณารูปภาพธรรมดาด้วยการใช้ Ads ประเภทต่าง ๆ เช่น การ Link to Website หรือการให้ Install โดยประเภทของ Instagram Ads ประกอบด้วย โฆษณารูปภาพ (Photo Ads) โฆษณาวิดีโอ (Video Ads) โฆษณาภาพสไลด์ (Carousel Ads) โฆษณาเรื่องราว (Stories Ads) ซึ่งกำลังเป็นที่นิยม จะช่วยให้เราสามารถแทรก Banner ระหว่างภาพนิ่งของผู้ใช้คนอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยหลักการทำงาน Instagram Ads จะช่วยในการส่งรูปภาพสินค้าที่เราเลือกทำโฆษณาไปยังผู้ใช้ IG ตามกลุ่มเป้าหมายที่เราเลือกไว้ โดยรูปภาพ หรือวีดีโอที่เราเลือก ควรเลือกรูปที่มีความสวยงามสะดุดตา โดนเด่น มีเอกลักษณ์สื่อถึงสินค้าและบริการของเราอย่างชัดเจน
6. IGTV
IGTVเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอ ที่สามารถโพสต์วิดีโอที่มีความยาวมากได้ (Long-Form Videos) สำหรับผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาด ถือว่ามีความน่าสนใจมาก เพราะว่า IGTV นั้น เป็นช่องทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพ สามารถสื่อสารและทำการเล่าได้ละเอียด ได้อารมณ์มากขึ้นไปอีกจากที่แค่เป็นภาพนิ่งหรือวิดีโอสั้น ๆ จะช่วยสร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) และให้ความหลากหลายกับผู้บริโภคได้มากขึ้น สามารถกระตุ้นให้ผู้ติดตามเกิดพฤติกรรมการซื้อได้มากกว่าเดิม IGTV เป็นวิดีโอให้คนดูได้แบบอัตโนมัติโดยที่ไม่ต้องเสียเวลาในการค้นหา ดังนั้นควร สร้างช่อง TV ของแบรนด์ด้วย IGTV เพื่อดึงดูดให้ผู้ชมติดตามเรื่องราวของแบรนด์ยิ่งถ้าแบรนด์ไหนมี Influencer มาร่วมทำ Content หรือร่วมกันสร้างรายการสักหนึ่งตอนใน IGTV ยิ่งทำให้น่าติดตามมากยิ่งขึ้น
7. การขายสินค้าใน IG
วิธีที่ง่ายที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการขายสินค้าใน Instagram คือ โพสต์ผ่าน Shoppable Posts ซึ่งพร้อมสำหรับการลงภาพนิ่งและเรื่องราวของสินค้า ผู้ใช้จะสามารถแตะและเข้าถึงรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าได้เลย โดยฟีเจอร์นี้จะให้เราแท็กรายละเอียดสินค้าไว้ที่รูปภาพบน IG ถ้ามีใครสนใจสินค้าในภาพ ก็สามารถกดเข้าไปดูรายละเอียดต่าง ๆ ทั้งชื่อ ราคา คุณสมบัติของสินค้า สินค้าที่มีความเกี่ยวเนื่อง ไปจนถึงลิงก์ที่จะพาผู้บริโภคไปยังเว็บไซต์ของเรา เพื่อซื้อสินค้าและบริการโดยตรง ถือเป็นการอำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภค ช้อปปิ้งได้ง่ายขึ้น เพียงแค่คลิก Tag ที่ติดไว้ ก็จะลิงก์ไปยังหน้าเว็บไซต์ของร้านค้าได้ทันที ช่วยให้เราปิดการขายได้ดียิ่งขึ้น
8. สร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ติดตาม
IG จะมีฟีเจอร์ อาทิ questions, emoji slider รวมถึงการสร้าง Polls ล่าสุดสามารถสร้างฟิลเตอร์มาเพื่อแจกให้ผู้ใช้ลองเล่น ซึ่งกำลังเป็นพีเจอร์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เราสามารถสร้างสรรค์ฟิลเตอร์เป็นประโยคตลก ๆ โดนใจ สีสันสวยงาม ดึงดูดให้ผู้ใช้มากดบันทึกไปใช้ ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้ถือเป็นเครื่องมือในการสร้างปฏิสัมพันธ์การรับรู้แบรนด์ เราควรใช้เพื่อเปิดการสนทนากับผู้ติดตาม จะทำให้ทราบความสนใจและความต้องการของผู้ติดตาม ข้อมูลที่ได้จะกลายเป็นข้อมูลเชิงลึก ที่สามารถนำมาสร้างเป็นคอนเทนต์ หรือสินค้าในอนาคต พัฒนาไปสู่การสร้าง brand loyalty และ engagement ได้อย่างยั่งยืน
ปัจจุบันสื่อสังคมออนไลน์เป็นส่วนประกอบสำคัญในกลยุทธ์การตลาด ดังนั้น ถ้าแบรนด์ไหนกำลังวางแผนทำการตลาดออนไลน์ โดยใช้อินสตาแกรมเป็นช่องทาง ก็ต้องรู้จักการประยุกต์ในหลากหลายรูปแบบ เพื่อให้การทำการตลาดเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด
สนใจบริการจากเรา คลิกที่นี่