พฤติกรรมของผู้บริโภค และ เทรนด์การตลาด ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ย่อมส่งผลให้ธุรกิจจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาด ให้เหมาะสมสถานการณ์นั้น ๆ ในปี 2023 ที่จะถึงนี้ มี เทรนด์การตลาด ออนไลน์ที่มีแนวโน้มว่าจะมาแรง และน่าจับตามองอยู่หลายเทรนด์ วันนี้เราได้ทำการรวบรวมมาให้ทุกคนได้ศึกษา เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการทำธุรกิจในปี 2023 กัน
Conversational Marketing – การตลาดที่เน้นการสนทนา
- ในปัจจุบันที่ผู้บริโภคไม่ชอบการรอคอยนาน ๆ อย่างการแชทสนทนา ที่ต้องการคำตอบโดยทันที การใช้ Chat bot หรือ AI automation เข้ามาช่วย จึงเป็นสิ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาที่ต้องให้ลูกค้ารอนาน ๆ สามารถตอบได้ 24 ชั่วโมง แถมยังช่วยทำให้แบรนด์กับลูกค้าเกิดการตอบโต้กันได้อย่างดี แต่เทคโนโลยีนี้ควรพัฒนาให้มีประสิทธิภาพ ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่ากำลังได้คุยกับคนจริง ๆ ไม่ใช่เป็นการถามคำตอบคำ แบบหุ่นยนต์นั่นเอง
Social Commerce – พฤติกรรมการช้อปปิ้งแบบใหม่
- อันที่จริงแล้ว Social Commerce ก็มีมาสักพักใหญ่แล้ว แต่จากช่วงที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า Social Media หลาย ๆ แพลตฟอร์มได้หันมาทำระบบขายสินค้ามากขึ้น และยังเป็นที่นิยมอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น TikTok Creator Marketplace ที่มีการซื้อ-ขาย และชำระเงินได้บนแพลตฟอร์ม TikTok ซึ่งแบรนด์ต่าง ๆ ก็ได้มีการสร้างสรรค์คอนเทนต์ให้เหมาะสมกลุ่มเป้าหมายบน TikTok และสามารถสร้างยอดขายได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
Short Video Marketing – แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นกำลังมาแรง
- YouTube Shorts, Instagram Reels, และ TikTok เป็นตัวอย่างของแพลตฟอร์มวิดีโอสั้น ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ที่ต้องการบริโภคคอนเทนต์ที่สามารถสร้างความบันเทิงหรือสาระความรู้ได้ ในระยะเวลาสั้น ๆ กระชับได้ใจความ และไม่ต้องมาอ่านตัวหนังสือยาว ๆ ดังนั้นวิดีโอสั้นจึงเป็นคอนเทนต์ที่ธุรกิจไม่ควรมองข้าม และหันมาให้ความสำคัญมากขึ้น
Focus on Customer Retention – กลยุทธ์ในการรักษาลูกค้าเก่า
- หลาย ๆ คนน่าจะเคยได้ยินกับคำว่า “อย่ามัวแต่หาลูกค้าใหม่ จนลืมรักษาลูกค้าเก่า” เพราะในการทำธุรกิจ การรักษาฐานลูกค้าถือเป็นเรื่องที่สำคัญกว่าการหาลูกค้าใหม่ มีงานวิจัยออกมาว่า การรักษาลูกค้าเก่า ช่วยประหยัดต้นทุนกว่าการหาลูกค้าใหม่ได้ถึง 5 เท่า เพราะลูกค้าเก่ามีโอกาสที่จะกลับมาซื้อสินค้าซ้ำ และหากแบรนด์สามารถทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจและแฮปปี้ได้ ลูกค้ากลุ่มนี้ก็จะมีแนวโน้มในการสนับสนุน และบอกต่อสินค้าที่เขาชื่นชอบกับคนอื่น ๆ อีกด้วย ถือเป็นการได้ Influencers มาแบบฟรี ๆ เลยทีเดียว
Long-term Influencer – จาก Influencer สู่ Brand Ambassador
- ในยุคที่ใคร ๆ ก็สามารถเป็น Influencer ได้ การใช้ Influencer จึงอาจจะไม่ได้รับความน่าเชื่อถือมากนักในสินค้าบางประเภท ทำให้ธุรกิจต้องมองหา Influencer ที่คิดว่าเหมาะสมกับแบรนด์ และสามารถจูงใจผู้ติดตามให้ซื้อสินค้าตามได้จริง และทำการรักษาความสัมพันธ์ระยะยาวกับ Influencer ท่านนั้น ๆ ที่ในตอนแรกอาจจะจ้างให้เป็นแค่ Influencer โปรเจคสั้น ๆ หันมาจ้างเป็น Brand ambassador ที่มีส่วนร่วมกับแบรนด์มากยิ่งขึ้น สิ่งนี้จะช่วยทำให้แบรนด์มีภาพลักษณ์ที่ชัดเจนมากขึ้น และยังช่วยให้กลุ่มลูกค้ารู้สึกเชื่อมั่นในสินค้ามากขึ้นอีกด้วย
Interactive Content – สร้างคอนเทนต์ที่ลูกค้าตอบโต้ได้
- ตัวอย่างของการทำ Interactive content นั้นมีมาให้เห็นกันพอสมควร เช่น ควิซ, เกม, การประกวด หรือ วิดีโอที่สามารถตอบโต้กันได้ ซึ่งคอนเทนต์รูปแบบนี้จะช่วยทำให้ลูกค้ารู้สึกสนุกและมีส่วนร่วมไปกับแบรนด์ แถมแบรนด์ยังสามารถบอกเล่าเรื่องราวและนำเสนอสินค้าได้อย่างเนียบเนียน และที่สำคัญคือใช้ต้นทุนต่ำ แต่สามารถสร้างผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจให้กับแบรนด์ได้เป็นอย่างดี
เชื่อว่าเทรนด์การตลาดทั้งหมดนี้ จะเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้ธุรกิจสามารถวางแผนกลยุทธ์ และมองภาพในอนาคตได้ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามธุรกิจควรเตรียมพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค เทคโนโลยี และปัจจัยอื่น ๆ อยู่ตลอดเวลา เพื่อปรับปรุงธุรกิจและกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตลาดในขณะนั้นนั่นเอง
อ้างอิง :
https://asana.com/resources/marketing-trends
https://mediatool.com/blog/marketing-trends-2023
https://marketinginsidergroup.com/marketing-strategy/marketing-trends/