WordPress โปรแกรมสำเร็จรูปสำหรับสร้างเว็บไซต์ที่ง่ายต่อการใช้งาน ไม่จำเป็นต้องเขียน Coding เป็นก็สามารถทำเว็บไซต์ได้ อีกทั้งยังสามารถตกแต่งเว็บไซต์ให้สวยงามตามวัตถุประสงค์ได้อย่างหลากหลาย ด้วย “WordPress Theme” รูปแบบการกำหนดสไตล์และลักษณะที่ช่วยตกแต่งเว็บไซต์ได้อย่างง่าย ๆ โดยไม่ต้องมีพื้นฐานเกี่ยวกับ Coding เน้นความง่ายและสะดวก ผู้ใช้สามารถซื้อธีมเพื่อใช้เป็นเค้าโครงของเว็บไซต์ แล้ว WordPress Theme คืออะไร รูปแบบไหนเป็นที่นิยมบ้าง มาเริ่มดูกันเลย!
WordPress Theme คืออะไร
WordPress Theme คือ รูปแบบหรือโครงสร้างที่ช่วยกำหนดหน้าตา จัดวาง Layout ตกแต่งเว็บไซต์ให้สวยงามตามความต้องการของเราได้ง่ายขึ้น และยังสามารถปรับการแสดงผลให้เข้ากับมือถือ คอมพิวเตอร์ หรือแท็บเล็ตได้ ซึ่ง WordPress Theme มีให้เลือกใช้ทั้งแบบฟรีและเสียค่าใช้จ่าย โดยเพื่อน ๆ สามารถเลือกสามารถเข้าไปเลือกดูธีมแบบต่าง ๆ ได้ที่กันได้เลย
- https://wordpress.com/themes/free (แบบฟรี)
- https://themeforest.net (แบบเสียเงิน)
โดยแต่ละธีมที่เราจะมาแนะนำกันวันนี้เป็นธีมเสียค่าใช้จ่าย ที่มีรูปแบบการใช้งานที่สามารถตอบโจทย์เว็บไซต์ได้หลากหลายประเภท และมีขายอยู่เว็บไซต์ Themeforest ดังนี้
พาส่องธีม WordPress ยอดนิยม บน Themeforest
Avada
Avada ธีม WordPress ยอดนิยมที่ได้ 4.78/5 คะแนนจากผู้ใช้งานบน Themeforest สามารถปรับแต่งรูปแบบได้หลากหลาย มีตัวอย่างไอเดีย Demos เยอะมาก ๆ สามารถเลือกใช้และปรับแต่งตามความต้องการ รองรับเว็บไซต์ประเภท WooCommerce เจ้านี้เค้ามี Page Builder เป็นของตัวเอง และมีรีวิวที่โดดเด่นเรื่องการ Support ที่ดีและรวดเร็วด้วย ราคาธีมอยู่ที่ $69
Flatsome
Flatsome อีกหนึ่งธีมขายดีบน ThemeForest ที่มีชื่อเสียงด้าน WooCommerce มี Option การออกแบบให้เลือกเยอะ รองรับการปรับความเร็วเว็บไซต์ (ผู้ผลิตธีมนี้ถึงกับโฆษณาเลยว่าธีมของเค้าเป็นหนึ่งในธีมที่เร็วที่สุดในตลาด) ใครที่กำลังมองหาธีมที่โหลดไว ไม่อยากให้เว็บไซต์ช้า ธีม Flatsome ก็นับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยในราคา $59
The7
The7 ธีมที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 2.8 แสนราย รองรับ WooCommerce และสามารถ Customize ได้ทุกหน้า สามารถออกแบบได้หลากหลายทั้งเว็บไซต์ขายสินค้า เว็บไซต์บริษัท หรือเอเจนซีโฆษณาก็ได้ รองรับ SEO และ Mobile Friendly ภาพรวมของรีวิวผู้ใช้งานจะเด่นด้านครอบคลุมการใช้งาน ธีมนี้ราคาอยู่ที่ $39 (ราคาถูกว่าสองตัวข้างบน)
Newspaper
Newspaper ธีมสำหรับสาย Content จะสร้างเป็นเว็บไซต์ข่าวหรือเว็บไซต์สำหรับเขียนบทความก็สามารถทำได้ตามชื่อธีม Newspaper เลย ใครที่สายรีวิว ชอบเขียนบทความไลฟ์สไตล์ธีมนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยค่ะ ส่วนฟังก์ชันอื่น ๆ ที่น่าสนใจของธีมนี้ คือ มี Pop-up Header และ Footer ให้เลือกหลากหลายเราสามารถปรับตามความต้องการได้เลย ราคาอยู่ที่ $41-$59
Enfold
Enfold เป็นอีกหนึ่งธีม WordPress ที่มีดีไซน์สะอาดตาติด Best Seller บน Themeforest เช่นกัน ด้วย Layout Element และ Template ที่สามารถเลือกใช้งานได้หลากหลาย รองรับการปรับ Responsive ในทุกอุปกรณ์ และผู้ผลิตยัง Support ตลอดการใช้งาน ราคาธีมอยู่ที่ $59
Uncode
Uncode เป็นธีมที่โดดเด่นด้าน Dynamic Contents บนเว็บไซต์มาก Demo ของเจ้านี้ทำออกมาได้น่าสนใจ และแบ่งหมวดหมู่ตามประเภทเว็บไซต์ได้เป็นอย่างดี เหมาะกับคนอยากได้เว็บไซต์แนว Creative ทั้ง Creative Agency, Creative Designers หรือเว็บไซต์ที่ต้องการโชว์ผลิตภัณฑ์ให้โดดเด่นและต้องการให้เว็บไซต์มีลูกเล่นที่น่าสนใจ ราคาอยู่ที่ $59
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับธีมที่เราแนะนำไป เรียกได้ว่าครอบคลุมกับหลากหลายประเภทธุรกิจเลย นอกจากนี้เราก็มีเทคนิคการเลือกซื้อธีมมาฝากผู้ที่สนใจทำเว็บไซต์ง่าย ๆ ดังนี้
เทคนิคการเลือกซื้อ WordPress Theme ต้องดูอะไรบ้าง
รีวิวจากผู้ใช้งานจริง เข้าไปอ่านดูเลยค่ะ ว่าธีมที่เราสนใจซื้อเค้ามีบริการหลังการขายอย่างไร หรือมีใครที่มาวิจารณ์เรื่องฟังก์ชันการใช้งานที่ไม่เป็นไปตามที่โฆษณาหรือไม่ สำคัญมาก ๆ เลยนะคะ
การอัปเดตของผู้ผลิต หรือ Last Update เพื่อให้เราทราบถึงว่าผู้ผลิตยังมีการอัปเดตตลอดเวลา ไม่ใช่ผลิตสินค้าแล้วหนีหายไปไหนไม่รู้ เผื่อว่าเราใช้งานธีมไปเกิดแล้วพังขึ้นมาจะได้ทักไปสอบถามผู้ผลิตได้นั่นเอง
WordPress Version มีการรองรับ WordPress เวอร์ชันใดบ้าง แนะนำว่าควรเป็นเวอร์ชันล่าสุดเพราะหากใช้ธีมที่ไม่รองรับ WordPress เวอร์ชัน ล่าสุดอาจเสี่ยงต่อความปลอดภัยของเว็บไซต์ได้
อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจมีคำถามว่า ถ้าเราไม่ต้องการใช้ธีมสามารถทำเว็บไซต์ได้หรือไม่? คำตอบคือ สามารถทำได้ค่ะ เราสามารถ customize เว็บไซต์เองได้เลย แต่อาจต้องมีความรู้ด้าน Coding และ UI/UX เพื่อให้เว็บไซต์สมบูรณ์มากยิ่งขึ้นค่ะ
สำหรับใครที่ต้องการทำเว็บไซต์ แก้ไขเว็บไซต์ หรือมีปัญหาด้านเว็บไซต์บน WordPress ก็สามารถทักมาสอบถาม Go Online ได้ตลอดเลยนะคะ เรามีผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษากับทุกปัญหาบนเว็บไซต์ของคุณค่ะ