ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกการทำธุรกิจในทุกวันนี้ ยิ่งรู้จักและเข้าใจลูกค้ามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งได้เปรียบในการทำการตลาดมากขึ้นเท่านั้น นั่นจึงทำให้ ‘ข้อมูล’ (Data) กลายเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกแบรนด์อยากมีและเข้าถึงให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะนำไปต่อยอดวางกลยุทธ์พัฒนาการตลาดของตัวเองให้เหนือกว่าคู่แข่ง ภายใต้การแข่งขันที่นับวันก็ยิ่งสูงขึ้นทุกวัน ดังนั้นธุรกิจส่วนใหญ่ในยุคนี้ จึงพาตัวเองเข้าสู่ ‘การทำการตลาดด้วยการขับเคลื่อนข้อมูลเป็นหลัก’ หรือ Data-Driven Marketing กันเป็นที่เรียบร้อยเพราะไม่ใช่แค่แบรนด์ที่ได้ประโยชน์จากข้อมูล แต่ผู้บริโภคเองเมื่อยินยอมมอบข้อมูลให้กับแบรนด์ไปแล้ว ก็คาดหวังที่จะให้แบรนด์เข้าใจและตอบสนองถึงความต้องการที่แท้จริงของพวกเขาได้เช่นกัน ทำให้ข้อมูล 1st Party Data เป็นเทรนด์ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในทุกวันนี้ ทาง LINE จึงสร้าง MyCustomer ขึ้นมา
1st Party Data คืออะไร ? มีความสำคัญอย่างไรกับคนทำธุรกิจ
1st Party Data คือข้อมูลที่แบรนด์ขอจัดเก็บจากผู้บริโภคโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรม ความสนใจ ความคิดเห็น ข้อมูลการซื้อ หรือข้อมูลการสมัครสมาชิก โดยแจ้งให้ผู้บริโภคทราบพร้อมได้รับความยินยอมในการจัดเก็บข้อมูลนั้น ๆ ซึ่งต่างจาก 2nd Party Data ที่เป็นการขออนุญาตหรือซื้อขายการเข้าถึงข้อมูลจากแหล่งของคนอื่น และ 3rd Party Data ที่เป็นการรวบรวมข้อมูลมหาศาลมาไว้ตรงกลางแต่อาจไม่มีประสิทธิภาพมากนัก ดังนั้นในแง่ของคนทำธุรกิจ 1st Party Data จึงเป็นโอกาสสำคัญที่จะนั่นจะช่วยให้แบรนด์มีโอกาสในการเข้าถึงและทำความรู้จักลูกค้า ส่งผลให้สื่อสารได้แม่นยำมากกว่าที่เคย
เปิดตัว MyCustomer อาวุธใหม่ ตัวช่วยแบรนด์เก็บข้อมูลผู้บริโภคได้อย่างง่ายดาย
ทำความรู้จักกับ MyCustomer
MyCustomer เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการจัดเก็บข้อมูลลูกค้า หรือ Customer Data Platform (CDP) ช่วยแบรนด์ในการเข้าถึงและเก็บข้อมูลผู้บริโภคได้ง่ายขึ้นผ่าน LINE Official Account ซึ่งใช้งานควบคู่ไปกับ MyCustomer และสามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่การทำการตลาดแบบเจาะใจผู้บริโภค และสามารถวางแผนกลยุทธ์ให้บรรลุเป้าหมายได้ต่อไป
กลยุทธ์เด็ด ๆ ของ MyCustomer อยู่ตรงไหน ? ทำไมถึงช่วยให้เจาะลูกค้าได้ตรงจุด
กลยุทธ์ของ MyCustomer จะประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลักๆ คือ
• Build เป็นการสร้างฐานข้อมูลและทำการนำเข้าข้อมูลมาจัดเก็บในระบบ
• Analyze เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ด้วยการแยกกลุ่มเป้าหมายออกไป ทำให้แบรนด์สามารถ จัดทำ Audience Segmentation จากข้อมูลที่ได้มาจากส่วนแรก
• Engage เป็นการนำเสนอคอนเทนต์ออกไปตามความ Personalized ของกลุ่มเป้าหมายในเรื่องต่าง ๆ ที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละคน และสามารถตรวจสอบสถิติหลังบ้านได้
ฟีเจอร์พิเศษต่าง ๆ ของ MyCustomer มีอะไรบ้าง ?
ในช่วงเปิดตัว จะมีฟีเจอร์พิเศษหลัก ๆ ให้ได้ใช้งานกันดังนี้
• Broadcast
เป็นการส่งข้อความหาผู้ติดตาม ได้ในหลากหลายรูปแบบทั้ง Text, Photo, Video, Tappable Message และ Personalize message
• Chats
เป็นการพูดคุยกันระหว่างแบรนด์และผู้ติดตามได้แบบ 1:1 และสามารถติด Tags ได้ว่าผู้ติดตามนั้น อยู่ในกลุ่มเป้าหมายใด
• Audience
สามารถสร้าง Tags เพื่อใช้กำหนดกลุ่มให้กับผู้ติดตามได้
• Rich Menu
แถบเมนูที่สามารถปรับแต่งได้เองตามความต้องการของแบรนด์
• Automation
เป็นข้อความที่แบรนด์กำหนดและสร้างไว้เพื่อตอบกลับอัตโนมัติ
• Survey
เป็นการสร้างแบบสำรวจหรือแบบสอบถามโดยมีการแจ้งให้ทราบถึงรายละเอียดการเก็บข้อมูล เพื่อนำข้อมูลมาพัฒนาต่อยอดธุรกิจ หลังจากนั้นข้อมูลจะถูกลบโดยอัตโนมัติ เพื่อให้สอดคล้องไปกับ Personal Data Protection Act (PDPA)
มาถึงตรงนี้ คนทำธุรกิจหลายคนคงทราบแล้วว่าแบรนด์ใดที่เก็บข้อมูล 1st Party Data ได้ก่อนก็ย่อมได้เปรียบ ดังนั้นหากอยากเข้าถึงลูกค้าตรงจุด เพียงแค่ให้ MyCustomer เป็นโซลูชันที่จะช่วยให้แบรนด์ทำความรู้จักและเข้าถึงใจลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำมากขึ้น เรียกได้ว่า MyCustomer จะเป็นตัวขับเคลื่อนที่จะผลักดันให้ธุรกิจต่อยอดเติบโตต่อไปได้ รวมถึงอยู่เหนือกว่าคู่แข่งท่ามกลางสถานการณ์ในปัจจุบันที่การแข่งขันสูงเช่นนี้
ติดตามข่าวสารของเราได้ทาง https://goonlinethailand.com/blog